วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รีวิว ครีมลดรอยแผลเป็นจากสิว ตัวไหนเด็ดจริง เสกหน้าปิ๊งได้ใน2สัปดาห์




สวัสดีค่า


ช่วงนี้สภาพหน้าไม่ค่อยพร้อมจะออกสื่อเท่าไหร่ ด้วยว่าประมาณสองเดือนก่อนเราตั้งใจลดน้ำหนักแบบจริงจัง ทั้งคุมอาหารและออกกำลังกาย ทีนี้ด้วยความที่รีบๆ ร้อนๆ ก็ทั้งทำงานทั้งเลี้ยงลูกอ่ะเนอะ หลังออกกำลังกายเสร็จเราเลยไม่ได้รอให้เหงื่อแห้ง ให้ร่างกาย cool down ตรงเข้าไปล้างหน้าอาบน้ำเลยทันที ผลที่ตามมาคือสิวอุดตัน สิวอักเสบและสิวผดขึ้นบนหน้าเป็นกระจุกเลยจ้า T^T 



 ด้วยความที่ห่างหายจากสิวมานาน พอขึ้นมือก็คันไง แคะแกะเกา จนได้รอยสิวบนหน้ามาเพียบ ก็เลยไปเสาะหาตัวช่วยเป็นครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวมาใช้ จนได้เจอครีมลดรอยแผลเป็นตัวนึงที่เราว่ามันเวิร์คมากๆ คือทาได้ตั้งแต่ตอนสิวยังอักเสบแดง จนสิวยุบแห้ง แล้วคือแทบไม่ทิ้งรอยใดๆ ไว้เลย ...ดีงามมากกก!

แต่ไหนๆ จะรีวิวทั้งที ก็เลยไปขุดเหล่าครีมลดรอยแผลเป็นที่เคยใช้มาแต่เก่าก่อนมารีวิวกันให้หนำใจทีเดียวไปเลยโลด อยากรู้ว่าครีมลดรอยแผลเป็น ตัวไหนดี ตัวไหนเด็ด หรือตัวไหนใช้แล้ว(เรา)เฟลท์ ก็มาตามติดรีวิวนี้กันได้เลยจ้า...จัดไป 5 ตัวสวยๆ!!!


1. Scargel ปริมาณ 9 กรัม ราคา 195 บาท

จัดเป็นครีบลดรอยแผลเป็นยอดฮิต น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ตัวนี้เป็นครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวตัวแรกที่เราใช้เลยนะ ขอบอก!


 ส่วนผสม :  Allium Cepa 12% และ สารสกัดจากว่านหางจระเข้ , สารสกัดจากต้นปอสา , ใบบัวบก , มะขาม และมีส่วนผสมของวิตามินอี ช่วยทำให้ผิวอ่อนนุ่ม เรียบเนียนขึ้น และลดรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิว อีสุกอีใส รวมไปถึงรอยนูนหรือแผลคีลอยด์อีกด้วย
เนื้อสัมผัสและกลิ่น : เนื้อเจลใสสีเหลืองใส เกาะผิวดี มีกลิ่นแอลกอฮอล์ค่อนข้างแรงวูบแรกที่ทา แต่พอระเหยไปก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ น่าจะเป็นกลิ่นของสารสกัดจากธรรมชาติผสมกับน้ำหอมเพราะตัวนี้มี Fragrance ผสมอยู่ด้วย
ความรู้สึกเมื่อทา : ซึมเข้าผิวได้ดีแบบปานกลาง ใช้แล้วหนึบหน้านิดหน่อย ไม่แสบ ไม่แดง แต่มีผิวลอกแห้ง
ผลการรักษา : ต้องขยันทามากๆ เพราะช่วยให้รอยจางจริงแต่เห็นผลช้ามาก ขนาดเราทาเช้า-เย็น ยังตั้งเดือนกว่ารอยแดง รอยดำจากสิวจะจางลง
 สรุป : ใครผิวแพ้ง่ายหรือมีสิวอักเสบอาจต้องระวังนิดนึง เพราะพอใช้ทาจุดเดิมนานๆ อาจมีแห้งลอกเป็นขุย น่าจะเพราะมีสารสกัดจากมะขาม รอยจางลงนะแต่นาน แถมถ้าสิวยังแดงๆ ทาแล้วแสบด้วย ควรใช้หลังสิวแห้งแล้วเท่านั้น
คะแนน : 6/10 เห็นผลช้า แห้งลอก แต่ราคาน่าคบหา

2. Mederma Gel ปริมาณ 10 กรัม ราคา 325บาท

ยี่ห้อนี้ซื้อมาลองเพราะนางนำเข้ามาจากเยอรมัน อยากลองของนอกอ่ะ ว่าง่ายๆ 555 ราคาแรงแต่พี่ก็ไม่หวั่นสอยมาแบบหวังผลสุดๆ ว่ามันต้องเวิร์คแน่ๆ


ส่วนผสม :  Allium cepa สารสกัดสูตรเฉพาะลิขสิทธิ์ของบริษัทเมิร์ช ประเทศเยอรมัน ที่สกัดจนได้ Cepalin( TM ) สูตรที่ดีที่สุช่วยในการยับยั้งการสร้างคอลลาเจนและไฟโบรบลาสที่มีมากผิดปกติจนทำให้เกิดรอยแผลเป็นนูนหรือแผลคีลอยด์ ลดการอักเสบบวมแดง และ ยังมี Allantonin ช่วยสมานแผล ลดคัน ช่วยให้รอยแผลเป็นอ่อนนุ่มขึ้นด้วย
เนื้อสัมผัสและกลิ่น : เนื้อเจลสีขาวขุ่น เกาะผิวดี ทาแล้วเย็นผิวนิดๆ กลิ่นน้ำหอมฉุนเลยล่ะ และรู้สึกได้ว่ามีแอลกอฮอล์ชัดเจนมาก
ความรู้สึกเมื่อทา : ซึมเข้าผิวค่อนข้างช้า แล้วที่ตลกคือพอนวดวนๆ ไปให้ซึมเข้าผิว เจลมันจะจับตัวแล้วเป็นเหมือนขี้ไคลลอกหลุดออกมาอ่ะ 555 ตัวนี้ถ้าทาก่อนแต่งหน้าไม่ค่อยเวิร์ค เราทาได้แต่ก่อนนอนกับเช้าวันที่ไม่แต่งหน้าต่อ ไม่แสบ ไม่แพ้แต่มีคันยิบๆ
ผลการรักษา : ถ้ารอยสิว รอยแดง รอยดำ ที่เพิ่งเป็นไม่นานมันจางไวดีอยู่นะ ประมาณ 2อาทิตย์ก็เริ่มเห็นผลละ
 สรุป : เป็นครีมลดรอยแผลเป็นที่ดีตัวนึงเลยนะ ใครเงินถุงเงินถังก็ลองสั่งมาใช้ดู แต่สำหรับเราไม่ค่อยชอบที่ซึมช้าแล้วเป็นขุยลอกเหมือนขี้ไคล เลยขอไปหายี่ห้ออื่นที่ราคาเบากว่าและซึมไวๆ มาใช้แทนดีกว่า
คะแนน : 8/10  เห็นผลเร็ว ซึมช้า ราคาสูง

3. Hiruscar Postacne ปริมาณ 5 กรัม ราคา 169 บาท

ขึ้นชื่อว่า Hiruscar ก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเค้าดังเรื่องรักษารอยแผลเป็น แล้วตัว Postacne นี่คือออกมาเพื่อลดรอยแผลเป็นจากสิวโดยเฉพาะแบบเน้นๆ แล้วรอยสิวเพียบแบบเราจะพลาดเหรอ สอยสิคะ 555


ส่วนผสม :  MPS, Allium Cepa และPionin  ช่วยให้รอยดำแดงจากสิวแลดูจางลง รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้น รอยดำ คล้ำแดงแลดูจางลง ลดปัญหาสิวอุดตัน เห็นผลลัพธ์ใน 4สัปดาห์
เนื้อสัมผัสและกลิ่น : เนื้อเจลใสเหลืองนิดๆ ข้นหนึบ เกาะผิวดี กลิ่นน้ำหอมแรงมาก ทาจนซึมกลิ่นก็ยังติดผิวอยู่เลย
ความรู้สึกเมื่อทา : ซึมเข้าผิวดีปานปลาง แต่เหนียวหน้าหนึบหนับมาก และไม่ชอบตรงกลิ่นน้ำหอมแรงมาก พลิกดูส่วนประกอบถึงเห็นว่ามี Fragrance อันดับกลางๆ ของส่วนผสมอื่นเลย ไม่แสบ ไม่ลอก ไม่แพ้แต่เหมือนทำให้รอยสิวมันคล้ำขึ้นแล้วถึงลอกหลุดออก
ผลการรักษา : เหมือนจะดีนะ คือมันทำให้รอยแผลเข้มขึ้นแล้วถึงลอกออกสีเลยค่อยๆ จางแบบช้าๆ แต่พอใช้ๆ ไป รู้สึกว่าอุดตัน สิวอุดตันบุกหนักเลย เคยลองหยุด สิวอุดตันก็หาย พอใช้อีกก็มาอีก...โอเค บายค่ะ
สรุป : คนที่ผิวไม่อุดตันง่ายอาจจะใช้ได้ดีนะ แต่เราใช้ได้แค่ 2อาทิตย์ก็ขอบายแล้ว เพราะสิวอุดตันมันมาตลอด รอยเก่าไม่ทันได้จาง รอยใหม่มาอีกแล้ว  T^T
คะแนน : 6/10  จางช้า ราคาแรง อุดตันผิว...บาย

4. Scar Esthetique ปริมาณ 4 กรัม ราคา 250 บาท

ครีมลดรอยแผลเป็นตัวนี้ซื้อตามโฆษณาในทีวี เห็นว่านำเข้าจากอเมริกาเลยนะ (บ้าของนอก55) แล้วพอดีไปเจอในวัตสันเลยซื้อมาลอง ราคาแรงแบบสุดขีด 250บาท แล้วคือแกะออกมาขนาดประมาณนิ้วก้อยเองอ่ะ ใช้แล้วกลัวทำหายมากๆ จิ๋วได้อี๊กกก


ส่วนผสม :  Onion Extract,ออกซิเปปไทต์, เอคโคเดิร์ม , สารสกัดจากเมล็ดองุ่น , สารสกัดจากสาหร่ายทะเล, สารสกัดจากเปลือกสน ช่วยให้รอยแผลเป็นนุ่มเนียนเรียบ และรอยแดง รอยดำ จากสิวจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เนื้อสัมผัสและกลิ่น : เนื้อครีมเข้มข้น นุ่มเนียน กลิ่นจางๆ แนวเคมีนิดๆ คือไม่มีกลิ่นน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์เลย ตรงนี้เราชอบมาก
ความรู้สึกเมื่อทา : ซึมไว เกลี่ยง่าย ไม่หนักและไม่หนึบผิวเลย ไม่แพ้ ไม่แสบแดงและไม่คัน
ผลการรักษา : รอยแผลใหม่ๆ แบบสะเก็ดเพิ่งหลุดแล้วทาเลยถือว่าจางไวอยู่นะ แต่รอยแดง รอยดำ รอยสิวเดิมๆ นี่แทบไม่จางเลยอ่ะ
สรุป : ได้ผลดีกับรอยแผลเป็นใหม่ๆ นะ รอยเก่าไม่ได้ช่วยเลย แอบมีสิวอุดตันขึ้นประปรายด้วยขนาดทาบางๆนะ เพราะมันแพงกลัวหมด555   หลอดเดียวพอ พี่ขอบาย
คะแนน : 7/10  รอยแผลใหม่จางไว แผลเก่าไม่เห็นผล ราคาแรงมาก

5. Dragon’s Blood Scar Cream ปริมาณ 15 กรัม ราคา 339 บาท

ครีมลดรอยแผลเป็นตัวนี้เราไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เพื่อนแนะนำมาแล้วหน้านางก็ใสมากไง ก็เชื่อหมดใจสั่งหลอดใหญ่มาเลยจ้า ราคานี้เราสั่งซื้อออนไลน์มานะก็ถือว่าคุ้มมาก หลอดใหญ่เบิ้มมาเลย ส่วนตัวชอบชื่อครีมลดรอยแผลเป็นตัวนี้นะ ดราก้อนบลัด=เลือดมังกร มีความ Game Of Throne ไปได้อีกกก 555


ส่วนผสม :  Dragon's blood (สารสกัดจากต้นเลือดมังกร), Allium Cepa 14%,สารสกัดจากใบบัวบก,สารสกัดจากเมือกหอยทากฝรั่งเศส,สารสกัดจากผักบุ้งทะเล, สารสกัดจากว่านหางจระเข้,อัลลันโตอิน,สารสกัดจากต้นหางม้า ,เชียร์บัทเตอร์,แพนทีนอล,วิตามิน อี  รักษารอยแผลเป็นได้ทุกแบบ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มากถึง 13 ชนิด รักษาตั้งแต่แผลเกิดเพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น และรักษารอยแผลเป็นเดิมให้จางหาย สีผิวสม่ำเสมอ ป้องกันการเกิดคีลอยด์ด้วย Allium Cepa ที่สูงถึง 14%  (ครีมลดรอยแผลเป็นทั่วไปจะ12%)
เนื้อสัมผัสและกลิ่น : เนื้อครีมสีขาวบางเบา เกลี่ยง่าย แต่ติดผิวดีไม่เหลวจนไหลเยิ้ม กลิ่นดีมากกก ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์เลย เพราะเค้าไม่มี Fragrance นั่นเอง ตรงนี้ดี ใครผิวแพ้ง่ายใช้แล้วสบายใจ
ความรู้สึกเมื่อทา : เกลี่ยง่ายนะ ซึมไวปานกลาง ทาแล้วผิวจะนุ่มๆ ดี ไม่เหนียว ไม่หนักหน้า แต่งหน้าต่อได้แบบสบายๆ ไม่แพ้ ไม่แสบแดงและไม่คัน
ผลการรักษา : รอยสิว รอยดำ รอยแดง จากสิวของเราจางหายไปเยอะมาก จากการใช้เพียงแค่ 2 อาทิตย์ ถือว่าเห็นผลเร็วนะ ตอนแรกแอบกลัวอุดตัน เพราะเห็นเป็นครีม แต่ไม่เลยเหมือนจะช่วยให้สิวแห้งเร็วขึ้นด้วย เพราะเจ้าสารสกัดจากต้นเลือดมังกรช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และลดการอักเสบได้ด้วย
สรุป : กลายเป็นครีมลดรอยแผลเป็นตัวโปรดไปเลย คือเราใช้ทาตั้งแต่สิวเริ่มอักเสบแดงเลย ทาแล้วเหมือนสิวจะอักเสบน้อยลง และถ้ามือเผลอไปแกะไปเกาจนเลือดไหลก็โปะไปเลย เลือดจะหยุดแล้วสิวแห้งเร็วมากเพราะเค้ามีสารเอเชียติโคไซด์จากใบบัวบก คือจากที่เคยเห่อซื้อของของนอกราคาแพง เจอครีมลดรอยแผลเป็น Dragon’s Blood Scar Cream ของไทยแท้ๆ เข้าไปติดใจเลยจ้า
คะแนน : 9/10 ถูกและดีมีอยู่จริง หัก 1คะแนนเพราะหาซื้อยากไปนิด


ปิดท้ายกันด้วยภาพ Before/After แบบหน้าสด จะเห็นเลยว่ากลุ่มสิวอักเสบและรอยดำ รอยแดงตรงข้างแก้มดีขึ้นมากๆ จากการใช้ Dragon’s Blood Scar Cream หลอดสีเขียว ในระยะเวลาประมาณ 2อาทิตย์กว่าๆ

ก็หวังว่ารีวิวครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวที่เรารีวิวแบบจัดเต็มให้ในครั้งนี้จะมีประโยชน์ต่อคนที่มีปัญหารอยแผลเป็นจากสิวเหมือนเรานะคะ แต่ทั้งนี้สิ่งที่รีวิวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากที่เราเคยลองใช้มา ซึ่งผิวของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ครีมลดรอยแผลเป็นตัวนี้เราใช้ไม่ดีแต่สาวๆ บางคนอาจจะใช้ดีก็ได้นะ ของแบบนี้ถือว่าเรามารีวิวเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในมุมของเราเนอะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รีวิว : มาส์กหน้าเรียว Hydro V Plus หน้าวี แบบไร้เหนียง สวยเรียวได้ไม่พึ่งเข็ม!




สวัสดีค่ะ

ใครหน้าบานยกมือขึ้นนนน???
เรายกมือคนแรกเลย ยกสูงด้วย 5555 คำถามแทงใจแบบนี้ไม่ควรจะถามกันเลยเนอะ

เพราะหนึ่งในนิยามความสวยของสาวๆ ยุคนี้ นอกจากผิวขาวเนียนใสแล้วก็ต้องยกให้การมีหน้าเรียวสวย ไร้เหนียง แบบ V-shape ด้วย ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่าอยากจะมีหน้าเรียวแบบไร้เหนียงนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะ ฉีดโบท็อกซ์ ฉีด Mesofat หรือร้อยไหมแบบสารพัดก้าง แต่ทุกความหน้าเรียวที่กล่าวมานั้น ต้องแลกมากับความเสี่ยง ความเจ็บปวด บวมแดง และเงินในกระเป๋าที่จะปลิวหายไป T^T

วันนี้เราเลยมีตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยให้สาวๆ หน้าเรียวสวยแบบไร้เหนียง แถมยังไม่ต้องพึ่งเข็มให้เจ็บตัวมาฝากกัน นั่นก็คือ

"มาส์กหน้าเรียว Hydro V Plus"





"Hydro V Plus" เป็นมาส์กหน้าเรียว ที่ผลิตและนำเข้ามาจากประเทศเกาหลี โดยใน 1กล่องก็จะมีทั้งหมด 4ซอง โดยแต่ละซองจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนก็คือ


1. Hydro V Plus Active Serum

ซึ่งอุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด อาทิ Vanillyl butyl ether ที่ช่วยเร่งสลายไขมันที่อยู่ใต้ชั้นเซลล์ผิว บริเวณแก้ม คาง และใต้คาง จึงช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับเป็นรูปตัว V ให้ชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ยังมีสารสกัดที่บำรุงผิว อาทิ สารสกัดเมือกหอยทาก, ชาชาว, ไฮยาลูโรนิก, วิตามินซีอนุพันธ์ใหม่ (3-0Ethyl Ascorbic acid), วิตามินบี 3 (Niacinamide), Copper Tripeptide-1, Adenosine, คอลลาเจน ฯลฯ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์ และสีผิวดูกระจ่างใส


2. Hydro V Plus Active Patch

แผ่นคาดใต้คางที่นำนวัตกรรมแผ่น Hydrogel ที่จะช่วยส่งผ่านสารสกัด สำคัญที่อยู่ในแผ่น อาทิ CellActive® ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยสลายไขมัน กำจัดของเสียภายในร่างกายและกระชับผิว ให้ซึมซาบลงสู่ผิวได้ในระดับที่ลึกและอัตราสูงขึ้น ออกฤทธิ์ได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดเวลาที่ใช้ สามารถใช้ได้ทั้งชายละหญิง เพราะยืดหยุ่นได้ดี ใช้งานสะดวกไม่รู้สึกรำคาญและเกิดอาการระคายเคืองขณะใช้

คำแนะนำในการใช้

สัปดาห์ที่ 1 – 2 ใช้วันละครั้งติดต่อกันทุกวัน สัปดาห์ที่ 3 ขึ้นไป ใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
***หากมีจำนวนไขมันเยอะให้ใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน วันละ1ครั้ง ติดต่อกัน 1 เดือน หลังจากนั้น ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง***

ข้อควรระวัง/ข้อห้าม
– งดทาครีมชนิดอื่นในบริเวณที่ต้องแปะแผ่นคาด (แก้ม ใต้คาง)
– ควรใช้ 4 กล่องขึ้นไป และใช้ต่อเนื่องกัน 1-2 เดือนหลังจากใช้ 3 สัปดาห์ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
– หากเป็นกราม กล้ามเนื้อ กระดูก และผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า จะไม่เห็นผล

วิธีใช้


บีบเนื้อเซรั่มออกมา จะได้เนื้อครีมสีขาวข้น มีความหนืดเล็กน้อยเพราะมีส่วนผสมของเมือกหอยทาก แล้วทาลงไปที่แก้มและคาง นวดเบาๆ ให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิว


คาด Active Patch และรีดแผ่นให้แนบกับใบหน้า ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง (หากมีไขมันมาก คาดทิ้งไว้นานกว่า 1 ชั่วโมงหรือคาดนอนได้) เพื่อให้สารสกัดสำคัญซึมลงสู่ผิวในอัตราสูงขึ้นและออกฤทธิ์ต่อเนื่องยาวนาน

(วิธีใช้ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ)
 

ความรู้สึกหลังใช้ : ความรู้สึกตอนทาเซรั่มแอบกลัวจะอุดตันเพราะเนื้อเข้มข้นมาก แอบมียืดๆ สไตล์เมือกหอยด้วย แต่พอใช้ไปไม่อุดตันนะ เซรั่มซึมเข้าผิวได้ดี นวดๆ แล้วคาดตัวแผ่นมาส์กเลย ขอชมว่าตัวแผ่นคาดออกแบบมาดีมาก คล้องเข้ากับที่หูทั้งสองข้างแล้วแผ่นจะแนบไปกับแก้มส่วนล่าง เหนียงและคางได้เรียบสนิท กระชับผิวแบบเป๊ะๆ ส่วนมากเราจะคาดประมาณ 2 ชม. พอแกะออกแล้วลองจับที่แผ่นมาส์กจะรู้สึกว่ามันอุ่นๆ ผิวดูแน่นๆ กระชับดี





After เราถ่ายแบบหน้าสดจะได้ไม่มี Shading มาหลอกตา 555

ผลลัพธ์ที่ได้ : เราทดลองใช้ Hydro V Plus ไปทั้งหมด 4กล่อง 16 แผ่น จัดแบบติดต่อกันทุกวันก่อนนอน รู้สึกได้ว่าเหนียงใต้คางดีขึ้นมาก รูปคางชัดขึ้น ส่วนของแก้มดูเฟิร์มขึ้น ห้อยย้อยน้อยลงนะ และเห็นกรอบหน้าชัดขึ้นด้วย

สำหรับเราถือว่า Hydro V Plus มาส์กหน้าเรียวจากเกาหลีตัวนี้ เป็นตัวช่วยให้หน้าเรียวสวยแบบ V-shape ได้ โดยไม่ต้องพึ่งเข็มที่เวิร์คนะ อาจต้องใช้เวลานิดนึงแต่ก็ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องเสี่ยง แถมราคายังสบายกระเป๋ากว่าการไปฉีดหน้าตามคลินิคอีกด้วย ใครสนใจก็ติดตามได้ตามช่องทางด้านล่างได้เลยนะคะ

ช่องทางการติดตามข้อมูลข่าวสาร และช่องทางการจัดจำหน่าย 


website : http://www.thehydroplus.com/
Facebook : https://www.facebook.com/thehydroplus/




ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่า...แล้วเจอกันใหม่นะคะ BYE!




วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รีวิว : โบกหนาแค่ไหนก็มีผิวสะอาดใสได้'ง่ายๆ ด้วย CORINE DE FARME MY BEAUTY SET


เฮลโหลววว

สวัสดีค่า กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะกับรีวิวของดีของเด็ดสไตล์ Brownsugar :)

ในเมื่อการแต่งหน้ากับผู้หญิงเป็นของคู่กัน วันนี้เราเลยจะมาขอรีวิวไอเท็มที่เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนต้องมีในครอบครองอย่างแน่นอน นั่นก็คือ คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า การรักษาความสะอาดของใบหน้าคือจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพผิวที่ดี ซึ่งคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางเดี๋ยวนี้ก็มีออกมามากมายหลายแบรนด์ หลายรูปแบบ ทั้งแบบน้ำนม แบบออยล์ แบบวิปโฟม แต่ที่ฮอตฮิตสุดๆ ตอนนี้คงต้องยกให้คลีนซิ่งแบบ Micellar Water ที่โดดเด่นเรื่องความอ่อนโยน ไม่อุดตันผิวและยังล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด 

อย่างคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางที่เราจะมารีวิวในวันนี้ เดินทางมาไกลจากประเทศฝรั่งเศสแถมยังมาเป็นเซ็ตพร้อมสเปร์ยน้ำแร่ชื่อดัง อยากรู้ว่าจะล้างเครื่องสำอางได้หมดจดมั้ย? และช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดีได้อย่างไง? ตามไปชมรีวิวกันเลยค่ะ 



" CORINE DE FARME MY BEAUTY SET "


เพื่อผิวสะอาดใสพร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวควบคู่กันไป ใน 1 ชุด จึงประกอบด้วย PURITY MICELLAR WATER 500 ml และ สเปร์ยน้ำแร่ EVIAN FACIAL SPRAY 50 ml.


ตัวแรกจะเป็น CORINE DE FARME PURITY MICELLAR WATER ขนาด 500 ml. 
เป็นคลีนซิ่งชนิดน้ำ ใช้ล้างเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึกและช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสและมอบความชุุ่มชื้น ให้ผิวอิ่มน้ำได้อีกด้วย
 ➤ สกัดจากสารธรรมชาติ 97% 
➤ ปราศจากพาราเบน แอลกอฮล์และไม่เติมแต่งสี
➤ อ่อนโยนใช้ได้แม้ในผิวบอบบางแพ้ง่าย ได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังฝรั่งเศส

➤ ใช้ทำความสะอาดได้ทั้งใบหน้า ดวงตาและริมฝีปาก เหมาะมากกับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ เพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง




สเปร์ยน้ำแร่ EVIAN FACIAL SPRAY 50 ml.

น้ำแร่ธรรมชาติจากยอดเขาอันบริสุทธิ์ของเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส อุดมไปด้วยแร่ธาติที่หลากหลาย ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทันที เพิ่มความยืดหยุ่นและทำให้ผิวเนียนนุ่ม

หน้าตาสวยงามมีความฝรั่งเศส เรียบหรูดูดี ว่าแล้วเราก็มาดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ




หน้าแน่นจัดเต็มแบบนี้มาดูกันซิว่าจะเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดจดต้องใช้สำลีกี่แผ่น และคลีนซิ่งตัวนี้จะเช็ดออกได้ง่าย ไม่แพ้ ไม่ทำร้ายผิวได้จริงสมคำเคลมมั้ย?


เรากดครั้งละ 2-3ปั้ม ให้ชุ่มแผ่นสำลี


แปะค้างไว้นับในใจ 1-20วินาทีแล้วปาดออก 


อื้มมม ถือว่าทำได้ดีเลยนะ เหลือเอาคอตตอนบัดเก็บตกมาสค่าร่ากันน้ำที่เหลือค้างอีกนิดหน่อย


เริ่มปาดไปบนผิวหน้าทีละข้าง เช็ดรองพื้นออกได้ดีมาก จากนั้นเราก็เช็ดไปเรื่อยๆ คิ้วเริ่มหาย รอยสิวเริ่มมา (555)



หน้าสดจ้า....เช็ดออกได้หมดจดจริงๆ แถมไม่ทิ้งความมันให้รำคาญผิวหน้าอีกด้วย


เทียบกันให้เห็นชัดๆ ^^


เราใช้สำลีไปประมาณ 6-7 แผ่น ถือว่าน้อยะ ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่เคยใช้ปกติประมาณ 10อัพตลอด เพราะรองพื้นที่ใช้วันนี้เนื้อหนักและระดับการปกปิดสูงมากกก แถมลิปกับมาสคาร่าก็เป็นแบบ waterproof จูบไม่หลุดอีกด้วย


สำหรับสเปร์ยน้ำแร่ Evian เราใช้ฉีดหลังล้างหน้าแล้ว โดยฉีดห่างจากใบหน้าประมาณ 1 ฟุต แล้วปล่อยให้ละอองน้ำแร่ซึมเข้าผิวโดยไม่เช็ดออก นอกจากนี้เรายังพกไปฉีดระหว่างวันอีกด้วย เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้าแถมทำให้หน้าสดชื่นขึ้นได้ในทันทีอีกด้วย


ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวคลีนซิ่งสะอาดใสเหมือนน้ำเปล่าไร้สีแต่มีกลิ่นอ่อนๆ สดชื่นดี เช็ดล้างเครื่องสำอางออกได้หมดจด ถือว่าประสิทธิภาพการทำความสะอาดดีมากเลยล่ะ หลังใช้ผิวไม่แสบแดง ไม่แห้งตึงและไม่เหนียวเหนอะหนะ ยิ่งพอใช้สเปร์ยน้ำแร่เอเวียงฉีดให้ทั่วใบหน้าหลังการล้างหน้าแล้วด้วยนะ รู้สึกได้เลยว่าผิวสดชื่นและผิวแลดูมีสุขภาพดีขึ้นมาทันทีเลย

สำหรับเราถือว่าเป็น คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางที่เวิร์คมากเลยนะ ทั้งด้านคุณภาพและความคุ้มค่า ก็ขวดใหญ่บึ้มขนาดนี้ราคาแค่ 850บาทเท่านั้นนะ แถมตอนนี้มี

โปรโมชั่นพิเศษที่ watsons และ beautrium นั่นคือซื้อเซ็ตนี้ได้ที่ราคา 550 บาท เท่านั้น (จากปกติ 1,039 บาท ประหยัดถึงเกือบ 500 บาท ) 

โอ้ยยยย....คุ้มขนาดนี้ไม่รีบไปสอยมาใช้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเหอะ


อ้อ แล้วเซ็ตนี้เค้าเป็น limited edition หมดแล้วหมดเลยนะคะ!

ใครสนใจก็ติดต่อหาซื้อได้ตามรายละเอียดด้านล่างเลยค่า

ช่องทางการติดตามข่าวสาร 
https://www.facebook.com/corinedefarmethailand/

ช่องทางการจัดจำหน่าย 
สถานที่จัดจำหน่าย : beautrium, watsons

ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะคะ แล้วเจอกันค่ะ บายยยย <3