วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

รีวิว บุฟเฟห์ชาบู ร้านโปรดในดวงใจ Onsen Shabu Shabu


วันนี้จะมีรีวิวร้านชาบูร้านโปรดที่หนึ่งในดวงใจ ที่เรียกได้ว่ากินทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละครั้งอาจเพราะว่าอยู่ใกล้บ้าน ขับรถไปทานได้สะดวก แต่เหตุผลหลักเลยคือ ยังหาชาบูที่อร่อยเท่าร้านนี้ไม่ได้จริงๆ
 คือเค้าไม่ใช่ร้านชาบูเฟรนไชน์ เปิดมาน่าจะเกือบ 3 ปีได้ละ แล้วเราก็กินบ่อยมากและเช็คอินในเฟสบ่อยๆ พรีเซ้นต์ร้านให้สุดฤทธฺ์ คือกลัวร้านเค้าปิด แล้วชีวิตจะลำบากคือมันชอบมากไง 555พอๆ ไม่พล่ามมากละ ไปดูภาพกันเลยดีกว่า



เราไม่ทานเนื้อก็เลือกเป็น บุฟเฟ่ห์หมูไป 349 บาทnet ถ้าทานเนื้อกับซีฟู้ดเพิ่ม 99 บาท
ในภาพคือสันคอหมู มาแบบชิ้นเบิ้ม สไลด์บางกำลังดี มีมันแทรกแบบพอเหมาะ 



อันนี้คือหมูสามชั้น บางร้านชอบเขียนว่าเบค่อน คือมันไม่ใช่นะ เบค่อนมันจะเค็ม นี่หมูสดมีไขมันแทรกแบบเป็นชั้นสวยงามสามชั้น (เหมือนพุงเราเลย) คุณภาพเนื้อหมูดีงาม อร่อยมากกก




หมูเด้ง เนื้อนุ่ม ปรุงรสมาพอดีไม่เค็มเกิน บางร้านเค็มมาก ร้านนี้รสชาติกำลังดี ชอบ



ปูอัดและเต้าหู้ปลา 2 เมนูนี้ของโปรดคุณสามี สั่งเบิ้ลตลอด เรามีแอบชิมปูอัด รสชาติโออยู่นะ แต่ไม่ใช่แนว คือไปกินร้านไหนเราก็ไม่สั่ง ไม่ใช่ว่าของเค้าไม่ดีนะ




เป็นเส้นอุด้งที่อร่อยมาก คุณภาพดีกว่าร้านชาบูชื่อดังหลายร้าน เส้นสด นุ่มเด้ง นี่คือ สาเหตุนึงที่ติดใจร้านนี้ก็เพราะเส้นอุด้งนี่แหล่ะ



น้ำจิ้มร้านนี้เค้ามีให้เลือก 6 อย่าง สุกี้ พอนซึ งาขาว แล้วอะไรไม่รู้อีก 3 อย่างจำไม่ได้555 คือเรากินแค่ พอนซึ กับ สุกี้ เค้าจะมีโต๊ะกลางร้านให้ไปตักไปเติมเองตามอัธยาศัย มะนาวนี่มาเป็นซีกนะจ๊ะ ไม่ใช่น้ำมะนาวปลอมในขวดแก้วแบบทั่วไป




พอนซึกับสันคอหมู คือดีงาม ยิ่งกับเบค่อนนะ อร่อยมากกกก เปรี้ยว เผ็ด ลงตัวช่วยตัดเลี่ยนได้ดีมากๆ



น้ำซุปที่นี่มีให้เลือก 4 แบบ แต่จำไม่ได้ เพราะเราสั่งแต่ซุปดำ รักมาก สั่งแต่ซุปนี้ตลอด อร่อย กลมกล่อม หอมมาก (อัพเดต...เดี๋ยวนี้มีซุปกิมจิเพิ่มมานะ อร่อยเข้มข้นสั่งบ่อยเช่นกัน)



ข้าวผัดกระเทียมรสชาติปานกลาง ไม่ได้โดดเด่น ชอบตรงที่ชามเล็กดีและไม่มันเยิ้ม


ของทอดก็อยู่ในบุฟเฟต์ มี นักเก็ตไก่ เฟรนซ์ฟรายด์ ไก่คาราเกะ เมื่อก่อนมีเกี๊ยวซ่าด้วย อร่อยม๊ากๆๆๆ แต่ถอดออกจากบุฟเฟ่ห์แล้ว สั่งมากินต้องจ่ายเพิ่ม เราชอบนักเก็ตไก่เค้า ทอดใหม่เมื่อสั่งไม่ได้ทอดค้างรอลูกค้า ดังนั้นต้องรอนานนิด แต่ก็อร่อยสมการรอคอย :)


ชาเขียวเย็นกับร้อน ก็อยู่ในบุฟเฟ่ห์



ปิดท้ายด้วยของหวานมี ไอศครีม ไม่รู้ของยี่ห้ออะไรแต่สีม่วงรสเผือกอร่อยสุด มีเนื้อเผือกแทรกให้เคี้ยว หอม มัน ไม่หวานจัด ชอบ! รสช็อคโกแลตก็งั้นๆ เข้มข้นดีแต่ชอบเผือก(เรื่องชาวบ้าน)มากกว่า 555
ข้างๆ คือพานาค็อตต้าชาเขียวโปะถั่วแดง (เราว่าเหมือนวุ้นชาเขียวมากกว่า)  รสชาติกลางๆ เอามากินคู่ไอศครีมก็โอเคอยู่นะ 

จบการรีวิว ใครหิวก็ไปหาอะไรทานกันตามอัธยาศัย และถ้าใครสนใจร้านนี้ก็แวะมาได้ ที่ The Brio สายสี่ มาง่ายที่จอดรถสะดวกสบาย ร้านนี้เมนูอาหารไม่ได้มากมายแต่คุณภาพของวัตถุดิบดีมาก บริการก็ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส สำหรับเราคุ้มค่าสมราคามาก  ก็ถ้าใครมีโอกาสแวะมาชิม ก็มาบอกกันด้วยนะว่าชอบเหมือนกันมั้ย :) เค้าจะรอฟังน๊า



ปล. ไม่ได้ค่ารีวิวใดๆ ทั้งสิ้น เสียตังค์เต็มราคาทุกครั้ง แต่เราอยากให้ร้านชาบูดีๆ อยู่ให้เราได้กินไปนานๆ แค่นั้นเอง ^^










วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

มี DRAMA เจ้าข้าเอ้ยยย....กับ Viral Marketing ขั้นเทพ

มี DRAMA เจ้าข้าเอ้ยยย....


ดราม่ากันจนได้กับประเด็น โพสภาพขาว-ดำ ติดแฮชแท็ก #BlindButNotBlind #KiehlsThailand  

โพสกันกระหน่ำทั้งใน IG และ FB ซึ่งเราก็หนึ่งในนั้นโพสผ่าน FB โดยไม่ได้ดูต้นขั้วจากทางแบรนด์ว่าเค้าให้โพสทาง IG นาจา และจำกัดยอดเงินบริจาคที่ 100,000 บาท 


ที่นี้ยอดแชร์ทั้งใน IG และ FB มันท่วมท้นล้นหลามมาก แค่ใน IG นะตอนนี้ก็ 150,000กว่าโพส ส่วนใน FB นี่เด้งกันดึ๋งดั๋งจน ณ.นาทีนี้ แล้วยังไงล่ะ?

ความดราม่ามันมาเมื่อมีคนที่รู้สึกว่ามันทะแม่งๆ ว่า มาหลอกปล่าววะ เห็นคนไทยโง่หรอ เห็นคนไทยชอบทำอะไรตามกระแสหรอ แล้วก็ไล่ล่าหาต้นตอ จนเจอว่าเอ้า ไม่ได้หลอกเว้ย แต่มันจำกัดยอดเงินบริจาคว่ะและก็จำกัดนับยอดโพสแค่ใน IG ด้วย!

เอาล่ะสิ! ความรู้สึกว่าถูกตกเป็นเครื่องมือทางการตลาดเริ่มมา ความรู้สึกว่าเราต้องปลุกให้คนไทยตื่นตัวเริ่มเกิด ... แบรนด์ได้ผลประโยชน์จากการที่คนแชร์มากมายจะมาจำกัดได้ไง ต้องบริจาคตามยอดแชร์ที่แท้จริงดิ แล้วห้ามจำกัดแค่ใน IG ด้วย ...อ๊ะๆ อย่ามาแถนะ ถ้าไม่นับใน FB แล้วมาแชร์รูปแคมเปญใน FB แบรนด์ทำไม???

- 150,000 x 10 = 1,500,000 บาท แค่ใน IG นะ

-  การที่คนรู้จักไม่ได้การันตีถึงยอดขายที่จะเพิ่ม เพราะหลายคนโพสไปแชร์ไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบรนด์นี้ขายอะไร???

- ต้องยอมรับว่าคนไทยติด FB มากกว่า IG หลายคนมี IG แต่ไม่ค่อยเล่น (เราก็หนึ่งในนั้น..ดูสิยังเสร่อไปโพสใน FB เลยเหอะ 555) การที่เค้าโพสใน FB มันก็แค่อีกช่องทางในการประชาสัมพันธ์แคมเปญ

- แคมเปญนี้เค้าทำมาเป็นปีที่ 2 แล้ว แต่ครั้งก่อนมันไม่ปัง ขนาดนี้

นี่ไม่ได้ออกมาปกป้องแบรนด์นะ เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแบรนด์เลย  เซรั่มวิตามินซีที่ดีขั้นเทพของแบรนด์นี้ ก็ยังไม่เคยได้ซื้อมาลอง จะได้สอยมาลองก็เพราะเพิ่งนึกได้ว่าเค้ามีของดี จากดราม่านี่แหล่ะ

แค่รู้สึกว่า ดราม่าครั้งนี้ยิ่งยาว Viral Marketing ของแบรนด์นี้ยิ่ง Success จนอดคิดแบบชั่วร้ายไม่ได้ว่า นี่ทีมการตลาดเค้าวางแผนไว้ หรือ เพราะนิสัยอ่านไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดของคนบางกลุ่ม มันบังเอิ้ญ บังเอิญ จนทำให้เกิดดราม่าในเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ขึ้นมา

ดราม่านี้จะจบยังไงไม่รู้ แต่รู้ว่าคนรู้จักแบรนด์ Kielhs กันมากขึ้นในแค่ข้ามคืน

สวดยอดดดดด....👍👍👍


วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

" My england is very well" hahaha
จั่วหัวกันแบบขำๆ เพราะวันนี้เราจะมาแบ่งปันเรื่อง English ฟ.ฟัน กันค่ะ



เราเป็นด.ญ.คนหนึ่งที่เรียนชั้นประถมใน รร.รัฐบาล ซึ่งสมัยนั้นจะเริ่มให้เรียนภาษาอังกฤษกันตอน ป.5 ที่นี้มีเหตุจำเป็นให้เราต้องย้ายมาอยู่กับแม่ (ก่อนหน้านี้อยู่กับยาย) ซึ่งแม่ก็เลือก รร.คาทอลิก หญิงล้วนที่ดีที่สุดในตอนนั้นให้ ปัญหาคือ เด็ก รร.นั้นเค้าเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่อนุบาล แล้วคือเราไม่รู้อะไรเลยเข้าไปตอน ป.5 ??? 

จำได้ว่าแม่ไปขอร้องซูพีเรีย(ผอ.รร.)ว่าขอให้เราได้เรียนที่นี่ อยากให้อยู่มาอยู่ด้วยกันเพราะพ่อเราเพิ่งเสียชีวิต ซูพีเรียใจดีมาก อนุญาตให้เราสอบเข้าแค่ ไทย เลข แล้วให้มาเรียนปรับพื้นภาษาอังกฤษตอนซัมเมอร์ 

จำได้ว่าสมัยก่อนจะให้ท่องแล้วสอบเขียนศัพท์ภาษาอังกฤษวันละ 5 คำ เราท่องทุกคืน ท่องๆๆๆๆ จนจำได้ แต่พอถึงเวลาในคาบเรียน เชื่อป่ะ เราเขียนไม่ได้เลย มันตื่นเต้นมาก ยิ่งถ้าครูเดินมาตรงที่เรานั่งนะ มือไม้สั่น 0/5 ก็ได้มาแล้ว ส่วนนึงอาจเพราะเราคิดอยู่ตลอดว่าเราทำไม่ได้ เราเรียนตามหลังเพื่อน 5 ปี คือความคิดมันวนๆ อยู่แต่แบบนั้นและเราก็ทำไม่ได้จริงๆ กลับบ้านแอบร้องไห้ตลอด คือวิชาอื่นได้หมด ยกเว้นภาษาอังกฤษ

ก็ถูๆ ไถๆ ไปจนขึ้นมัธยม ซึ่งจุดเปลี่ยนมันเกิดตรงนี้
ตอนเราอยู่ชั้นม.2 ภาษาอังกฤษเราก็ได้เกรด 2หรือ3 นี่แหล่ะ คือจริงๆ เราชอบภาษามากนะ นี่คือพยายามสุดๆ แล้วแต่เต็มที่ก็ได้แค่นี้จริงๆ

ทีนี้ ที่รร.มีโครงการสอบวัดระดับภาษาจากเคมบริดจ์มา ซึ่งเค้าจะคัดแค่ 5 คนในห้องไปสอบ ซึ่งคุณครูราตรี(ครูภาษาอังกฤษที่เราจำชื่อแม่นมาก555) เค้าเลือกเราอ่ะ ...คือ เฮ้ยยยย เค้าเลือกช้านนน คนอื่นได้เกรด4 ครูยังไม่เลือกเลย เราอึ้งแล้วถามครูว่าทำไมครูเลือกหนู 
ครูบอก.."เพราะครูเชื่อว่ากิติยาทำได้"

แค่คำนี้จริงๆ ความคิดเราเปลี่ยนเลย ทำไมเราถึงไม่เคยเชื่อในตัวเอง ทำไมเราต้องรอให้คนอื่นมาบอกว่าเชื่อในตัวเรา ตั้งแต่วันนั้นเราได้เกรด 4 ภาษาอังกฤษมาตลอด และมีความสุขมากๆ ในทุกคาบเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่เราเรียนสายวิทย์-คณิต รวมไปถึงตอนเรียนมหา'ลัย วิชาอังกฤษทุกตัวต่ำสุดคือ B+ และเพราะภาษาทำให้เราได้โอกาสดีๆ ในหลายๆงานที่ทำ

ตอนนี้ภาษาเราก็ไม่ได้เพอร์เฟ็ค สื่อสารได้ แกรมม่าไม่ได้เป๊ะออกจะง่อยๆ ด้วย 555 แต่เราแค่อยากบอกว่า ความคิด ความมั่นใจ มันมีผลต่อหลายสิ่งในชีวิตจริงๆ นะ เราโชคดีที่ได้เจอครูที่ดี ที่มองเห็นสิ่งนั้นในตัวเรา...แล้วคุณล่ะ มองเห็นศักยภาพในตัวเองบ้างหรือยัง :)

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

รีวิว Kokumaro Curry แกงกะหรี่ญี่ปุ่น ทำเองก็ได้ง่ายจัง :)

เราเป็นคนชอบทานอาหารญี่ปุ่น และข้าวแกงกะหรี่ทงคัตสึก็เป็นหนึ่งในเมนูที่ชอบมาก
หลายสัปดาห์ก่อนไปเดิน Foodland เลยไปสอยแผ่นแกงกะหรี่สัญชาติญี่ปุ่นมาหนึ่งกล่อง
ยี่ห้อ Kokumaro ระดับ เผ็ดกลาง ราคา 99.50 บาท (น่ารักอ่ะ มีหย่อนไป 50ตังค์ด้วย555)


ด้วยความที่เรารู้สึกว่าต้องทงคัตสึเท่านั้น ที่เข้ากับแกงกะหรี่ แต่มันหาไม่ได้และไม่มีปัญญาทำ
เลยคิดว่าทำเป็นสไตล์ vegetarian ใส่แค่แครอท มันฝรั่งและหอมหัวใหญ่พอ แล้วกินคู่กับไข่เจียวร้อนๆ
ก็น่าจะเข้าท่าอยู่ :)

แกะกล่องมาจะเป็นถาดพลาสติก 2 ล็อค (ควรมีรูปแต่ลืมถ่าย ขออภัยค่ะ) ระบุว่า 1 ล็อคสำหรับเสิร์ฟ 4 ที่ 
แต่ของเรามีสามีอ้วน 1 หน่วย กับคุณแม่วัยทองอีก 1 หน่วย และเรา ผญ.สวยร่างอวบอีก 1 รวมแล้ว 3 ที่
เราใช้แครอท 1 หัว หอมหัวใหญ่ 1 หัว และมันฝรั่ง 2 หัว ผักทั้งหมดหั่นทรงเต๋า แบบพอดีคำ

ซึ่งพอเปิดซีลมาจะเห็นเป็นแผ่นแบนๆ สีน้ำตาลหอมเครื่องเทศแบบเคอรี๊ เคอรี่ ทรง 4 แฉก คือจริงๆ หักแบ่งได้อีก อย่างสมมุติจะทำกินคนเดียวแบบโสดๆ ไม่มีแฟน เหงาๆ ไรงี้ ก็หักมาใส่แค่ 1 แฉกทำพอกินคนเดียวเหงาๆ ไป (555)


แต่สามีอ้วนเลย +1 สรุปจัดไป 1 ล็อคสวยๆ สำหรับ 4 ที่



ตั้งกระทะหรือหม้อให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ผักทั้งหมดลงไปผัดให้พอสุก

แล้วใส่น้ำสะอาดลงไป 1 ลิตร รอจนเดือด แล้วจับเวลา 15 นาทีหรือจนแครอทกับมันฝรั่งนิ่ม
หรี่ไฟอ่อน ใส่แผ่นแกงกะหรี่ ค่อยๆ บิเป็นชิ้นแล้วใส่ คนๆ บี้ๆ ให้ละลายไม่จับเป็นก้อน
เคี่ยวไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที จะได้แกงกะหรี่ญี่ปุ่นหน้าตาเยี่ยงนี้ กลิ่นหอมมากกกก


ตักราดบนไข่เจียวร้อนๆ กินกับข้าวสวยหอมๆ อื้มมมมม....มันอร่อยมากกกกกก เป็นแกงกะหรี่ที่หอมนวล 
มีความครีมมี่แบบกลมกล่อม เนื้อสัมผัสข้นกำลังดี แต่ไม่มีรสเผ็ดเลย (ไหนบนกล่องบอก Medium Hot?)
ใครชอบแบบติดหวาน อาจต้องใส่น้ำตาลเพิ่มนิดนึงแต่เราชอบรสแบบนี้เลยคิดว่าพอดี ถูกปากมากๆ แล้ว


ลากันไปด้วยภาพข้าวแกงกะหรี่ไข่เจียว แบบโฮมเมด ที่ไม่เห็นไข่เจียว555 ใครชอบก็ลองทำกันดู
ไม่ยากเลย แต่ทานแล้วแนะนำให้ดื่มน้ำตามกันเยอะๆ นะ เครื่องแกงเค้าร้อนแรงเข้มข้นจริงอะไรจริง 
เพราะวันถัดมาเราและสามีตื่นมาด้วยอาการเจ็บคอ และมีแผลร้อนใน 2 เม็ดในปาก 😅 

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบ หวังว่าจะชอบและไปลองทำทานกันดูนะคะ 😚😁💓





วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

มาพวกเรามากิน กู้ดทามมม...


คุ้กกี้ Good Time โฆษณาบ่อยจนร้องเพลงได้ติดปาก...มาพวกเรามากินกู้ดทามมมม~🎶
ซื้อมากินบ่อยๆ แต่เพิ่งมาดูหน้าซองว่า 390kcal ต่อการกิน 1 ครั้ง 


ซึ่งมีคำแนะนำตัวจิ๋วบางๆ บอกว่าควรแบ่งกิน 3 ครั้ง คือ 1 ซองนี่ 390x3 = 1,170 kcal 😱😱
แกะออกมาเป็นถาดแบ่ง 3 ล็อค 1 ล็อคมี 4 ชิ้นน้อยๆ
....ฮือ ชิ้นนึงเกือบ 100 kcal คือถ้ากินหมดหนึ่งล็อค เท่ากับเส้นใหญ่ราดหน้าหรือข้าวซอยไก่ 1 จาน!!!
กลั้นใจหยิบออกมาแค่ 1 ชิ้นแล้วรีบมัดปากถุงไปวางไกลๆ 😢



มาพวกเรามากินกู้ดทามมมม~😆